หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประเภทของฟังก์ชัน (Kind of Function)


ฟังก์ชัน (Function)


ฟังก์ชัน คือ ความสัมพันธ์ที่สมาชิกในโดเมนแต่ละตัวจับคู่กับสมาชิกของเรนจ์ของความสัมพันธ์เพียงตัวเดียวเท่านั้น


 ข้อตกลงเกี่ยวกับสัญลักษณ์ของฟังก์ชัน

  • ถ้า f เป็นฟังก์ชัน และ (x, y)  f แล้ว y เป็นค่าของฟังก์ชัน f ที่ x

    ---------เขียนแทนด้วย ƒ(x) ดังนั้น จะได้ y = ƒ(x)

  • ในกรณีที่ไม่ได้กำหนดโดเมนของฟังก์ชัน ให้ถือว่า โดเมนของฟังก์ชันเป็นเซตของจำนวนจริงหรือสับเซตของจำนวนจริง

 การหาโดเมนและเรนจ์ของฟังก์ชัน

เนื่องจากฟังก์ชันเป็นความสัมพันธ์ ในการหาโดเมนและเรนจ์ของฟังก์ชันจึงใช้หลักการเดียวกันกับการหาโดเมนและเรนจ์ของความสัมพันธ์



ฟังก์ชันเชิงเส้น

    ฟังก์ชันเชิงเส้น n ตัวแปร มีรูปทั่วไป คือ y = a1x1 + a2x2 + a3x3 +… + anxn

    หรือฟังก์ชันที่อยู่ในรูป y = ax + b เมื่อ a, b เป็นจำนวนจริง และ a ≠ 0 มีกราฟเป็นเส้นตรง

 ฟังก์ชันกำลังสอง

ฟังก์ชันกำลังสอง คือ ฟังก์ชันที่อยู่ในรูปของ y = ax2 + bx + c เมื่อ a, b, c เป็นจำนวนจริงใดๆ และ a ≠ 0

สัญลักษณ์กราฟของฟังก์ชัน ขึ้นอยู่กับค่าของ a, b และ c ถ้า a > 0 จะได้กราฟหงาย แต่ถ้า a < 0 จะได้กราฟคว่ำ

เราสามารถหาคำตอบของสมการโดยใช้กราฟ นั่นคือ การหาจุดที่กราฟตัดแกน x หรือกราฟที่ทำให้ค่า y = 0


การแก้สมการกำลังสองโดยใช้กราฟ
    1. กรณีที่กราฟไม่ตัดแกน x จะไม่มีคำตอบของสมการที่เป็นจำนวนจริง
      เช่น
      y
      =
      --ax2 + c
      เมื่อ
      a > 0
      และ
      c > 0
      y
      =
      --ax2 + c
      เมื่อ
      a < 0
      และ
      c < 0
      y
      =
      --a (x – h )2 + k
      เมื่อ
      a > 0
      และ
      k > 0
      y
      =
      --a (x – h )2 + k
      เมื่อ
      a < 0
      และ
      k < 0

    2. กรณีที่กราฟตัดแกน x เพียงจุดเดียว จะมีคำตอบของสมการที่เป็นจำนวนจริงเพียง 1 จำนวน

      ------------นั่นคือ กราฟของสมการ y = a(x - h)2

    3. กรณีที่กราฟตัดแกน x สองจุด จะมีคำตอบของสมการที่เป็นจริง 2 จำนวน

      ----------นั่นคือ กราฟของสมการ y = a(x - h)2 + k เมื่อ a > 0 และ k < 0

      --------------------หรือ---------- y = a(x - h)2 + k เมื่อ a < 0 และ k > 0

การแก้อสมการกำลังสองโดยใช้กราฟ
อสมการกำลังสองมีด้วยกัน 4 รูป คือ
ax2 + bx + c < 0
ax2 + bx + c ≤ 0
ax2 + bx + c > 0
ax2 + bx + c ≥ 0
วิธีการแก้อสมการเพื่อหาคำตอบนั้นทำได้โดยพิจารณากราฟของ y = ax2 + bx + c เมื่อ a ≠ 0 ดังนั้น
    1. หาจุดบนกราฟที่ทำให้ y = 0 หรือหาจุดที่กราฟตัดแกน x

    2. กรณีที่ ax2 + bx + c < 0 ให้หาค่าของ y < 0 (กราฟจะอยู่ใต้แกน x)

    3. กรณีที่ ax2 + bx + c > 0 ให้หาค่าของ y > 0 (กราฟจะอยู่เหนือแกน x)

 ฟังก์ชันเอกซ์โพแนนเชียล

ในที่นี้จะเป็นฟังก์ชันเอกซ์โพแนนเชียลพื้นฐานเบื้องต้นที่อยู่ในรูปของ y = ax เมื่อ a > 0 และ a ≠ 1

จากสมการ y = ax จะได้
  1. กราฟของฟังก์ชันจะผ่านจุด (0, 1) เสมอ เพราะ a0 = 1

  2. ถ้า a > 1 เมื่อ x มีค่าเพิ่มขึ้น y จะมีค่าเพิ่มขึ้น

  3. ถ้า 0 < a < 1 เมื่อ x มีค่าเพิ่มขึ้น y จะมีค่าลดลง

  4. โดเมนของฟังก์ชัน คือ เซตของจำนวนจริง

  5. เรนจ์ของฟังก์ชัน คือ เซตของจำนวนจริงที่มากกว่าศูนย์

ฟังก์ชันค่าสัมบูรณ์

ในที่นี้จะหมายถึง ฟังก์ชันค่าสัมบูรณ์ที่อยู่ในรูปของ y =  x – a  + c เมื่อ a และ c เป็นจำนวนจริง

การหาโดเมนและเรนจ์จากกราฟของฟังก์ชันค่าสัมบูรณ์

    • เมื่อ x = 0 ค่าของ y จะเท่ากับศูนย์


    • เมื่อ x > 0 และ x มีค่าเพิ่มขึ้น ค่าของ y จะเพิ่มขึ้นและเป็นจำนวนบวก


    • เมื่อ x < 0 และ x มีค่าน้อยลง ค่าของ y จะเพิ่มขึ้นและเป็นจำนวนบวก

    ดังนั้น Dƒ = {x  x  R}

    -------Rƒ = {y  y R และ y ≥ 0}

 ฟังก์ชันขั้นบันได

ฟังก์ชันขั้นบันได หมายถึงฟังก์ชันที่มีโดเมนเป็นสับเซตของเซตของจำนวนจริง และมีค่าของฟังก์ชันเป็นค่าคงตัวเป็นช่วงๆ มากกว่าสองช่วง กราฟของฟังก์ชันนี้มีลักษณะคล้ายขั้นบันได

ตัวอย่างของฟังก์ชันขั้นบันไดที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ได้แก่ อัตราค่าบริการไปรษณีย์ประเภทต่างๆ เช่น จดหมาย พัสดุไปรษณีย์ เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น